“เคยได้อ่านหรือได้ยินมาประมาณว่า
...งานการสื่อสารทั่วไปคือการให้คำตอบ แต่ศิลปะคือการตั้งคำถาม”
“การให้คำตอบคือความสบายใจ”
เคยไหมเวลาเดินทางไปที่ใหม่ๆ แล้วมักจะค้นหารีวิว หรือคำแนะนำการเดินทางก่อน? ถ้าเคย ก็ไม่แปลกหรอก
แล้วเคยไหมเวลาไปดูงานศิลปะ แล้วมักตามหาป้ายขาวๆ เพื่ออ่านชื่องานและรายละเอียดก่อน? ถ้าเคย ก็ไม่แปลกหรอก เพราะคำตอบคือความอุ่นใจของทั้งผู้เดินทาง และผู้ชมงานศิลปะ
ในที่ใหม่ๆมีอะไรที่เราคาดเดาไม่ได้อยู่มาก (อาจจะเจอร้านอร่อย หรืออาจจะเสียเที่ยวก็ได้) เพื่อป้องกันความไม่แน่นอน เราจึงทำการบ้านกันก่อน ก็ถือว่ารอบคอบดี ...ในการดูงานศิลปะมันมีอะไรที่เราไม่เข้าใจอยู่มากมายเช่นกัน (เราอาจจะเดาถูกตรงใจกับความคิดศิลปิน หรืออาจจะไม่ตรง) เพื่อป้องกันการตีความที่ไม่แน่นอน เราจึงมองหาสิ่งชี้นำหรือคำตอบก่อน “เพื่อไม่ให้เกิดความคิดเห็นที่ต่างจากสิ่งที่ควรเป็น”
ถ้าหากเรารู้คำตอบ(ที่ถูกต้อง) เราก็สบายใจที่เรามาถูกทางแล้ว แถมยังไม่เสียเวลาที่ต้องคิดเองด้วย ทางออกนี้ก็เป็นหนึ่งในทางเลือก เพื่อตอบโจทย์สถานการณ์ต่างๆ
แต่สำหรับการดูศิลปะ มันอาจจะเป็นโอกาสดี ที่เราจะสามารถ คิดเอง มโนอะไรเองได้ ในเมื่อศิลปินมักไม่ได้อยู่ตรงนั้น ไม่ได้คอยความคุมความของคิดคุณ
“การตั้งคำถามคือความเสี่ยง”
เคยตั้งคำถามกับคำตอบที่เราได้รับไหม? หรือแม้แต่ตั้งคำถามกับตัวเอง? ทำบ่อยมั้ย? (ถ้าตอบว่าใช่ และบ่อย ก็คงเป็นบ้าไปแล้ว ฮ่าๆๆ) การตั้งคำถามกับอะไรก็ตาม มันไม่ง่าย และไม่สะดวกเท่าการรอคำตอบหรอก จริงมั้ย? เพราะถ้าเราตั้งคำถาม ก็ต้องมาหาทางตอบ หาคนตอบ หาคำตอบ หาวิธีตอบ มันทำให้ต้องคิดเยอะแยะไปหมด ลำบากจะตาย
ในสิ่งใหม่ๆ หรือแม้แต่สิ่งที่เรารู้จัก ก็ยังมีส่วนอื่นๆที่เราไม่รู้ ที่พลิกแพลง หรือปรับเปลี่ยนได้เสมอ เพราะ “ความไม่แน่นอนคือสิ่งที่แน่นอนที่สุด” (ยืมนิตเช่มา) มีความเป็นไปได้อีกนับไม่ถ้วน และความรู้สึกนี้ไม่ใช่สิ่งที่ทำให้เราอุ่นใจได้แน่นอน คนส่วนใหญ่จึงไม่โหยหาความกำกวมนี้ และเลือกจะให้หรือรอรับคำตอบสุดท้าย
ศิลปะคือ(โอกาสดีใน)การตั้งคำถาม ชิ้นงานที่อยู่ตรงหน้า เป็นเหมือน ประตูให้ผู้ชมก้าวไปสู่ความเป็นไปได้ทางความคิดของตัวผู้ชมเอง (เพราะศิลปินไม่ได้มาเฉลยไง และถ้าเฉลยก็ไม่จำเป็นต้องไปเห็นด้วยหนิ) นั่นคือโอกาสดีของคุณไม่ใช่หรอ ที่จะสามารถทดลองความคิดใหม่ๆในพื้นที่ปลอดภัยที่ศิลปินมอบให้นี้
เช่นเดียวกัน ...มันก็เป็นโอกาสดีให้ศิลปินได้ตั้งคำถาม เพราะศิลปะเป็นเรื่องส่วนตัวและส่วนรวมพร้อมๆกัน ศิลปินจึงสามารถตั้งคำถามกับตัวเองหรือสิ่งรอบตัว และนำมันมาสร้างเป็นประตูวิเศษให้นักเดินทางทางความคิด(หรือผู้ชม) ได้เปิดประตูแล้วก้าวไปสู่ พื้นที่ให้คิด อย่างอิสระ โดยไม่มีกรอบจำกัดใดๆ
30.01.2019
...งานการสื่อสารทั่วไปคือการให้คำตอบ แต่ศิลปะคือการตั้งคำถาม”
“การให้คำตอบคือความสบายใจ”
เคยไหมเวลาเดินทางไปที่ใหม่ๆ แล้วมักจะค้นหารีวิว หรือคำแนะนำการเดินทางก่อน? ถ้าเคย ก็ไม่แปลกหรอก
แล้วเคยไหมเวลาไปดูงานศิลปะ แล้วมักตามหาป้ายขาวๆ เพื่ออ่านชื่องานและรายละเอียดก่อน? ถ้าเคย ก็ไม่แปลกหรอก เพราะคำตอบคือความอุ่นใจของทั้งผู้เดินทาง และผู้ชมงานศิลปะ
ในที่ใหม่ๆมีอะไรที่เราคาดเดาไม่ได้อยู่มาก (อาจจะเจอร้านอร่อย หรืออาจจะเสียเที่ยวก็ได้) เพื่อป้องกันความไม่แน่นอน เราจึงทำการบ้านกันก่อน ก็ถือว่ารอบคอบดี ...ในการดูงานศิลปะมันมีอะไรที่เราไม่เข้าใจอยู่มากมายเช่นกัน (เราอาจจะเดาถูกตรงใจกับความคิดศิลปิน หรืออาจจะไม่ตรง) เพื่อป้องกันการตีความที่ไม่แน่นอน เราจึงมองหาสิ่งชี้นำหรือคำตอบก่อน “เพื่อไม่ให้เกิดความคิดเห็นที่ต่างจากสิ่งที่ควรเป็น”
ถ้าหากเรารู้คำตอบ(ที่ถูกต้อง) เราก็สบายใจที่เรามาถูกทางแล้ว แถมยังไม่เสียเวลาที่ต้องคิดเองด้วย ทางออกนี้ก็เป็นหนึ่งในทางเลือก เพื่อตอบโจทย์สถานการณ์ต่างๆ
แต่สำหรับการดูศิลปะ มันอาจจะเป็นโอกาสดี ที่เราจะสามารถ คิดเอง มโนอะไรเองได้ ในเมื่อศิลปินมักไม่ได้อยู่ตรงนั้น ไม่ได้คอยความคุมความของคิดคุณ
“การตั้งคำถามคือความเสี่ยง”
เคยตั้งคำถามกับคำตอบที่เราได้รับไหม? หรือแม้แต่ตั้งคำถามกับตัวเอง? ทำบ่อยมั้ย? (ถ้าตอบว่าใช่ และบ่อย ก็คงเป็นบ้าไปแล้ว ฮ่าๆๆ) การตั้งคำถามกับอะไรก็ตาม มันไม่ง่าย และไม่สะดวกเท่าการรอคำตอบหรอก จริงมั้ย? เพราะถ้าเราตั้งคำถาม ก็ต้องมาหาทางตอบ หาคนตอบ หาคำตอบ หาวิธีตอบ มันทำให้ต้องคิดเยอะแยะไปหมด ลำบากจะตาย
ในสิ่งใหม่ๆ หรือแม้แต่สิ่งที่เรารู้จัก ก็ยังมีส่วนอื่นๆที่เราไม่รู้ ที่พลิกแพลง หรือปรับเปลี่ยนได้เสมอ เพราะ “ความไม่แน่นอนคือสิ่งที่แน่นอนที่สุด” (ยืมนิตเช่มา) มีความเป็นไปได้อีกนับไม่ถ้วน และความรู้สึกนี้ไม่ใช่สิ่งที่ทำให้เราอุ่นใจได้แน่นอน คนส่วนใหญ่จึงไม่โหยหาความกำกวมนี้ และเลือกจะให้หรือรอรับคำตอบสุดท้าย
ศิลปะคือ(โอกาสดีใน)การตั้งคำถาม ชิ้นงานที่อยู่ตรงหน้า เป็นเหมือน ประตูให้ผู้ชมก้าวไปสู่ความเป็นไปได้ทางความคิดของตัวผู้ชมเอง (เพราะศิลปินไม่ได้มาเฉลยไง และถ้าเฉลยก็ไม่จำเป็นต้องไปเห็นด้วยหนิ) นั่นคือโอกาสดีของคุณไม่ใช่หรอ ที่จะสามารถทดลองความคิดใหม่ๆในพื้นที่ปลอดภัยที่ศิลปินมอบให้นี้
เช่นเดียวกัน ...มันก็เป็นโอกาสดีให้ศิลปินได้ตั้งคำถาม เพราะศิลปะเป็นเรื่องส่วนตัวและส่วนรวมพร้อมๆกัน ศิลปินจึงสามารถตั้งคำถามกับตัวเองหรือสิ่งรอบตัว และนำมันมาสร้างเป็นประตูวิเศษให้นักเดินทางทางความคิด(หรือผู้ชม) ได้เปิดประตูแล้วก้าวไปสู่ พื้นที่ให้คิด อย่างอิสระ โดยไม่มีกรอบจำกัดใดๆ
30.01.2019