ทำไมเรียนศิลปะ แล้วเลือกเรียน “การเขียน” ?
เหตุผลแรกก็คือ งก เพราะการเขียนเป็นงานสร้างสรรค์ที่ประหยัดต้นทุนที่สุดก็ว่าได้ เพราะต้นทุนก็คือตัวเรา มือเรา ความคิดเรา (+สมุดและปากกาของเรา)
ด้วยความต้นทุนต่ำนี่แหละที่ทำให้เราได้เข้าไปสำรวจความคิดอย่างใกล้ชิดมากขึ้น
การเขียนด้วยมือ มันทำให้เราได้คิดช้าลง เป็นช่วงเวลาที่ร่างกายและความคิดค่อยๆทำงานไปด้วยกัน และเมื่อเราชลอความคิดลง มันช่วยให้เราลำดับความคิด และความจำของเราได้ แนะนำว่าเขียนด้วยมือจะชัดเจนกว่าพิมพ์มากๆ
อีกอย่างก็คือ มันไม่ต่างอะไรกับการวาดภาพหรอก เมื่อเราวาดเสร็จ กลับมามองดูภาพ จากระยะใกล้ๆไกลๆอีกครั้ง หลังจากที่พักสายตาจากมันก่อน มันมักจะทำให้เราเข้าใจสิ่งที่คิด และเห็นอะไรในความรู้สึกของตัวเองมากขึ้น
และถ้าอยากสร้างสรรค์ ก็คือช่วงเวลาอิสระของนักเล่าเรื่องสมัครเล่น เพราะไม่มีใครกำลังฟัง มอง หรือพยายามเข้าใจเรื่องราวและภาษาของเรา ณ ขณะที่เรากำลังเขียน มีแค่กระดาษ ปากกา และจินตนาการเท่านั้น
สุดท้ายหากใครคุ้นเคยกับการจดบันทึก คงพอจะนึกถึงความรู้สึกผ่อนคลายหลังจากได้ระบายเรื่องราวที่เกิดขึ้นผ่านปลายปากกาด้ามโปรด ไม่ว่าจะเป็นเรื่องที่เพิ่งเกิดขึ้นวันนี้ เดือนนี้ หรือปีนี้ เราต่างก็หลอมรวมความรู้สึกเก็บไว้กับตัวเอง การเขียนทำให้เราพยายามค้นหา หรือสร้างความหมาย ให้กับความรู้สึกมากมายเหล่านั้น เราจึงเข้าใจ และรู้สึกเบาบางเหมือนกระดาษ
ทำไมต้องเขียน?
เพราะด้วยเหตุผลอะไรก็ตามที่ทำให้คุณอ่านมาถึงตรงนี้ อาจจะเป็นเพียงแค่โอกาสดีๆ เพื่อให้เราได้เริ่มต้น และสานต่ออะไรดีๆให้กับตัวเอง
13.12.2019
เหตุผลแรกก็คือ งก เพราะการเขียนเป็นงานสร้างสรรค์ที่ประหยัดต้นทุนที่สุดก็ว่าได้ เพราะต้นทุนก็คือตัวเรา มือเรา ความคิดเรา (+สมุดและปากกาของเรา)
ด้วยความต้นทุนต่ำนี่แหละที่ทำให้เราได้เข้าไปสำรวจความคิดอย่างใกล้ชิดมากขึ้น
การเขียนด้วยมือ มันทำให้เราได้คิดช้าลง เป็นช่วงเวลาที่ร่างกายและความคิดค่อยๆทำงานไปด้วยกัน และเมื่อเราชลอความคิดลง มันช่วยให้เราลำดับความคิด และความจำของเราได้ แนะนำว่าเขียนด้วยมือจะชัดเจนกว่าพิมพ์มากๆ
อีกอย่างก็คือ มันไม่ต่างอะไรกับการวาดภาพหรอก เมื่อเราวาดเสร็จ กลับมามองดูภาพ จากระยะใกล้ๆไกลๆอีกครั้ง หลังจากที่พักสายตาจากมันก่อน มันมักจะทำให้เราเข้าใจสิ่งที่คิด และเห็นอะไรในความรู้สึกของตัวเองมากขึ้น
และถ้าอยากสร้างสรรค์ ก็คือช่วงเวลาอิสระของนักเล่าเรื่องสมัครเล่น เพราะไม่มีใครกำลังฟัง มอง หรือพยายามเข้าใจเรื่องราวและภาษาของเรา ณ ขณะที่เรากำลังเขียน มีแค่กระดาษ ปากกา และจินตนาการเท่านั้น
สุดท้ายหากใครคุ้นเคยกับการจดบันทึก คงพอจะนึกถึงความรู้สึกผ่อนคลายหลังจากได้ระบายเรื่องราวที่เกิดขึ้นผ่านปลายปากกาด้ามโปรด ไม่ว่าจะเป็นเรื่องที่เพิ่งเกิดขึ้นวันนี้ เดือนนี้ หรือปีนี้ เราต่างก็หลอมรวมความรู้สึกเก็บไว้กับตัวเอง การเขียนทำให้เราพยายามค้นหา หรือสร้างความหมาย ให้กับความรู้สึกมากมายเหล่านั้น เราจึงเข้าใจ และรู้สึกเบาบางเหมือนกระดาษ
ทำไมต้องเขียน?
เพราะด้วยเหตุผลอะไรก็ตามที่ทำให้คุณอ่านมาถึงตรงนี้ อาจจะเป็นเพียงแค่โอกาสดีๆ เพื่อให้เราได้เริ่มต้น และสานต่ออะไรดีๆให้กับตัวเอง
13.12.2019