“สำหรับครู ถ้าความรู้ถูกอัพเดทแล้ว แต่หนังสือเรียนยังไม่อัพเดท ครูควรจะสอนอะไรให้เด็ก”
– FB page: I feel write it
เมื่อเห็นโพสต์นี้แล้ว ทำให้นึกถึงบทสนทนากับเพื่อนมัธยมเมื่อสองสามวันก่อน เราคุยกันว่า ยังจำอะไรจากช่วงม.ต้นกันได้บ้าง? สิ่งที่ถูกพูดถึงบนโต๊ะอาหารวันนั้นคือ... เพลงเกาหลี ท่าเต้นที่ฮอตฮิต มือถือรุ่นที่ใช้ในสมัยนั้น และที่สำคัญคือ
“เอาจริงๆ จำไม่ได้เลยว่าเรียนอะไรไปบ้าง”
เราก็คงจำไม่ได้เช่นกันว่า ความรู้ที่เรียนไปมันเป็นชุดความรู้ที่อัพเดทที่สุด ณ เวลานั้นหรือเปล่า แต่ที่แน่ๆ สิ่งต่างๆที่เราพูดถึงกัน คือสิ่งที่เป็นเทรน ณ เวลานั้น ซึ่งเรารับรู้ และยังจำได้ ทั้งที่ไม่ได้ถูกสอนอยู่ในบทเรียน (แต่เป็นสิ่งที่จำเป็นต้องรู้ไหม นั่นอีกเรื่องนึง)
“สำหรับครู ถ้าความรู้ถูกอัพเดทแล้ว แต่หนังสือเรียนยังไม่อัพเดท ครูควรจะสอนอะไรให้เด็ก”
ทำไมไม่สอนให้ผู้เรียนสามารถอัพเดทสิ่งที่เขาควรรู้ ให้ได้ด้วยตัวเองหละ? แน่นอนว่ามันคงไม่ง่าย และตรงไปตรงมาเท่ากับการถ่ายทอดข้อมูลที่มีอยู่แล้ว เพราะนี่เรากำลังพูดถึงการเปลี่ยนวิธีการจาก
ครูผู้พายเรือพาเราไปอีกฝั่ง เป็นการทำให้ผู้เรียนสามารถว่ายน้ำกลับไปกลับมาเองได้
ในกรณีนี้เราจะกำหนดพิกัดฝั่งที่ผู้เรียนจะว่ายน้ำไปได้ยาก เขาจะต้องกำหนดได้เอง คล้ายกับการสอนให้ใครคนนึงเป็น ผู้ที่สามารถเริ่มต้น ค้นหาอะไรใหม่ๆ และเอาตัวรอดได้เอง อย่างเช่น นักสร้างสรรค์ นักประดิษฐ์ หรือ ศิลปิน ซึ่งมันอาศัยกระบวนการ มากกว่าการให้ข้อมูลความรู้
ยกตัวอย่างว่า คุณอยากเป็นจิตรกรที่ประสบความสำเร็จ คุณไม่สามารถศึกษา และวาดรูปให้เหมือนแวนโก๊ะ แล้วเรียกว่าเป็นการนำความรู้ที่มี มาสร้างผลงานมาสเตอร์พีซของตัวเองได้ จริงไหม? สิ่งที่คุณจะเรียนรู้จากแวนโก๊ะได้ คือ อะไรที่ทำให้เขาสร้างผลงานที่น่าสนใจได้ และเรานำสิ่งที่เขาทำมาดัดแปลง ต่อยอดอย่างไรได้บ้าง
ผู้สอนอาจต้องค้นหาวิธีการ นอกหนังสือเรียน ที่จะสามารถทำให้ผู้เรียนของเขา รู้ว่าอะไรคือสิ่งที่สำคัญกับเขาในเวลานั้น (ที่นอกเหนือจากเรื่องที่ผู้เรียนจะสนใจเองตามช่วงวัย) อะไรคือสิ่งที่เขาควรรู้เกี่ยวกับมัน จะเรียนรู้สิ่งเหล่านั้นได้อย่างไร จะนำมันไปใช้ประโยชน์ได้อย่างไร และหากเกิดความเข้าใจผิด หรือเกิดความผิดพลาดควรทำอย่างไร... ทั้งหมดนี้คงทำให้ห้องเรียนกลายเป็น สนามเด็กเล่นที่ดูวุ่นวาย เต็มไปด้วยคนที่กระหายที่จะตามหาสิ่งที่เขาสนใจ เต้นตามจังหวะเพลงที่เขาชอบ ทำความเข้าใจเทคโนโลยีที่อยู่ในมือ
เพราะสิ่งที่เราเป็นคนค้นหาและค้นพบเอง มักจะเป็นสิ่งที่ติดตัวเราไปได้นานกว่า
หมือนกับสิ่งที่ยังถูกพูดถึงบนโต๊ะอาหารในวันนั้น... เพลง ท่าเต้น มือถือ
24.12.2019
– FB page: I feel write it
เมื่อเห็นโพสต์นี้แล้ว ทำให้นึกถึงบทสนทนากับเพื่อนมัธยมเมื่อสองสามวันก่อน เราคุยกันว่า ยังจำอะไรจากช่วงม.ต้นกันได้บ้าง? สิ่งที่ถูกพูดถึงบนโต๊ะอาหารวันนั้นคือ... เพลงเกาหลี ท่าเต้นที่ฮอตฮิต มือถือรุ่นที่ใช้ในสมัยนั้น และที่สำคัญคือ
“เอาจริงๆ จำไม่ได้เลยว่าเรียนอะไรไปบ้าง”
เราก็คงจำไม่ได้เช่นกันว่า ความรู้ที่เรียนไปมันเป็นชุดความรู้ที่อัพเดทที่สุด ณ เวลานั้นหรือเปล่า แต่ที่แน่ๆ สิ่งต่างๆที่เราพูดถึงกัน คือสิ่งที่เป็นเทรน ณ เวลานั้น ซึ่งเรารับรู้ และยังจำได้ ทั้งที่ไม่ได้ถูกสอนอยู่ในบทเรียน (แต่เป็นสิ่งที่จำเป็นต้องรู้ไหม นั่นอีกเรื่องนึง)
“สำหรับครู ถ้าความรู้ถูกอัพเดทแล้ว แต่หนังสือเรียนยังไม่อัพเดท ครูควรจะสอนอะไรให้เด็ก”
ทำไมไม่สอนให้ผู้เรียนสามารถอัพเดทสิ่งที่เขาควรรู้ ให้ได้ด้วยตัวเองหละ? แน่นอนว่ามันคงไม่ง่าย และตรงไปตรงมาเท่ากับการถ่ายทอดข้อมูลที่มีอยู่แล้ว เพราะนี่เรากำลังพูดถึงการเปลี่ยนวิธีการจาก
ครูผู้พายเรือพาเราไปอีกฝั่ง เป็นการทำให้ผู้เรียนสามารถว่ายน้ำกลับไปกลับมาเองได้
ในกรณีนี้เราจะกำหนดพิกัดฝั่งที่ผู้เรียนจะว่ายน้ำไปได้ยาก เขาจะต้องกำหนดได้เอง คล้ายกับการสอนให้ใครคนนึงเป็น ผู้ที่สามารถเริ่มต้น ค้นหาอะไรใหม่ๆ และเอาตัวรอดได้เอง อย่างเช่น นักสร้างสรรค์ นักประดิษฐ์ หรือ ศิลปิน ซึ่งมันอาศัยกระบวนการ มากกว่าการให้ข้อมูลความรู้
ยกตัวอย่างว่า คุณอยากเป็นจิตรกรที่ประสบความสำเร็จ คุณไม่สามารถศึกษา และวาดรูปให้เหมือนแวนโก๊ะ แล้วเรียกว่าเป็นการนำความรู้ที่มี มาสร้างผลงานมาสเตอร์พีซของตัวเองได้ จริงไหม? สิ่งที่คุณจะเรียนรู้จากแวนโก๊ะได้ คือ อะไรที่ทำให้เขาสร้างผลงานที่น่าสนใจได้ และเรานำสิ่งที่เขาทำมาดัดแปลง ต่อยอดอย่างไรได้บ้าง
ผู้สอนอาจต้องค้นหาวิธีการ นอกหนังสือเรียน ที่จะสามารถทำให้ผู้เรียนของเขา รู้ว่าอะไรคือสิ่งที่สำคัญกับเขาในเวลานั้น (ที่นอกเหนือจากเรื่องที่ผู้เรียนจะสนใจเองตามช่วงวัย) อะไรคือสิ่งที่เขาควรรู้เกี่ยวกับมัน จะเรียนรู้สิ่งเหล่านั้นได้อย่างไร จะนำมันไปใช้ประโยชน์ได้อย่างไร และหากเกิดความเข้าใจผิด หรือเกิดความผิดพลาดควรทำอย่างไร... ทั้งหมดนี้คงทำให้ห้องเรียนกลายเป็น สนามเด็กเล่นที่ดูวุ่นวาย เต็มไปด้วยคนที่กระหายที่จะตามหาสิ่งที่เขาสนใจ เต้นตามจังหวะเพลงที่เขาชอบ ทำความเข้าใจเทคโนโลยีที่อยู่ในมือ
เพราะสิ่งที่เราเป็นคนค้นหาและค้นพบเอง มักจะเป็นสิ่งที่ติดตัวเราไปได้นานกว่า
หมือนกับสิ่งที่ยังถูกพูดถึงบนโต๊ะอาหารในวันนั้น... เพลง ท่าเต้น มือถือ
24.12.2019